มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มระยะกลางและระยะยาวของตลาด FOREX ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (NFP) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) , ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, การขอรับสวัสดิการการว่างงาน, ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม, ดุลการค้า, อัตราการว่างงาน, ยอดค้าปลีก ฯลฯ ความแตกต่างระหว่างข้อมูลที่เผยแพร่และการคาดการณ์จะส่งผลกระทบที่แตกต่างกันในคู่สกุลเงิน

NFP ของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ FOREX การเพิ่มขึ้นของ NFP และค่าจ้างเฉลี่ยบ่งชี้ว่าการเติบโตของการจ้างงานและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นได้เพิ่มขึ้น ในหลายกรณี เฟดจะยับยั้งพวกเขาโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลดีต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในทางกลับกัน การลดลงอย่างต่อเนื่องของ NFP จะหมายความว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงในระดับหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มความเป็นไปได้ของการลดอัตราดอกเบี้ยและส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ การตัดสินใจของธนาคารกลางในประเทศต่างๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ FOREX ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา อัตราดอกเบี้ยถูกกำหนดโดย Federal Open Market Committee (FOMC) การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยมีความสำคัญเนื่องจากธนาคารกลางในประเทศต่างๆ จะกำหนดนโยบายการเงินและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยโดยพิจารณาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อในประเทศ และการว่างงาน ดังนั้น การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของอัตราดอกเบี้ยของประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต

หากธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่งตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนจากการฝากเงินสดในอนาคตจะลดลง ทำให้เงินสกุลท้องถิ่นไหลออกจากธนาคารสู่ตลาด ส่งเสริมการลงทุนและการบริโภค และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ความต้องการของตลาดสำหรับสกุลเงินของประเทศนั้นจะลดลงเนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่ลดลง และเพิ่มแรงกดดันในการอ่อนค่าของสกุลเงิน ในทางตรงกันข้าม การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนการกู้ยืม และลดสภาพคล่องในตลาด ดังนั้นจึงมีผลในการระงับการบริโภคและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นจะดึงดูดเงินจำนวนมากที่แปลงเป็นสกุลเงินของประเทศ และเพิ่มโอกาสที่สกุลเงินจะแข็งค่าขึ้น